top of page
1410x2030-01-01.jpg

คลิกเลย! เพื่อติดตามแพ็คเกจทัวร์ที่น่าสนใจ

KTO Metaverse 2023 - key virsual (1410x750)-01.jpg
1410x2050-01-01-01_0.jpg
ดีไซน์ป้าย-02.png

เมืองปูซาน

          เมืองปูซานเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงของเกาหลี จะขึ้นชื่อในเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ เมือง และชายหาด เนื่องจากปูซานเป็นที่เลื่องลือกันในเรื่องชายหาดที่สวยงาม ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งในช่วงนี้เราก็จะได้เห็นดอกพ็อตกตบานสะพรั่งไปทั่วเมือง ทำให้การมาเที่ยวเมืองปูซานในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะเหมือนเป็นของขวัญที่มอบความประทับใจด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงามของดอกพ็อตกตสีชมพูอันสบายตา พร้อมไปกับการได้สัมผัสสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิริมชายหาด

แลนด์มาร์คที่ #1: เทศกาลชินแฮกุนฮังเจ (Jinhae Gunhangje Festival, 진해군항제)

25032021-02.png
25032021-05.png
25032021-03.png
25032021-04.png

เทศกาลชินแฮกุนฮังเจ (Jinhae Gunhangje Festival) ในเมืองชางวอนใกล้กับเมืองปูซาน เป็นเทศกาลประจำฤดูใบไม้ผลิ ที่เราจะได้ชมความงามของดอกพ็อตกตตลอดทั้งสองข้างทางที่ยาวถึง 800 เมตร และกว่า 360,000 ต้น และจะบานพร้อมๆ กันจนถือว่าเป็นสถานที่ชมดอกพ็อตกต “สวยที่สุดในประเทศ” เลยก็ว่าได้ และอีกจุดชมดอกพ็อตกตที่ได้รับความนิยมมากๆ นั้นก็คือตรงจุดลำธารยอฮวาชอนที่ดอกพ็อตกตต่างเรียงรายกันอยู่รอบลำธาร จนเกิดเป็นอุโมงค์ดอกไม้สีชมพูบานสะพรั่งสวยงามสุดๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือตรงสถานีรถไฟคยองฮวา โดยจะมีฉากหลังเป็นดอกพ็อตกตที่สวยงาม ตลอดทั้งสองทางเดินก็เต็มไปด้วยดอกพ็อตกตสีชมพู ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินไปรอบๆ และสัมผัสกลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิ

แลนด์มาร์คที่ #2: แฮอุนแด บลูไลน์พาร์ค (Haeundae Blueline Park, 해운대블루라인파크)

Haeundae Blueline Park-03.png
Haeundae Blueline Park-08.png
Haeundae Blueline Park-05.png
Haeundae Blueline Park-07.png

แฮอุนแด บลูไลน์พาร์ค (Haeundae Blueline Park) เป็นรถไฟสกายแคปซูลริมชายหาดที่ให้บริการที่ Haeundae Blueline Park จากสถานีมีโพ (Mipo) และสถานีชองซาโพ (Choengsapo) พร้อมพาเราไปสัมผัสกับบรรยากาศของริมชายหาดและชมสถานที่สำคัญของเมืองปูซาน Sky Capsule Train เป็นรถไฟสีสันสดใสและมีขนาดกะทัดรัด ต่อหนึ่งขบวนนั่งได้ครั้งละ 4 คน ถ่ายรูปออกมาก็ตัดกับท้องฟ้าได้ดี และจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที! เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาในการชมทิวทัศน์ต่างๆ ของชายหาดสีฟ้าคราม ต้นไม้สีเขียว และวิวของเมืองแบบ 360 องศา จะมาฤดูไหนก็ได้ภาพสวยๆ กลับไปแน่นอน

เมืองแทกู

          เมืองแทกู เป็นเมืองที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่สวยงามมากมาย เป็นสถานที่ที่ผสมผสานประเพณีวัฒนธรรมอันเก่าแก่และความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อฮีลลิ่งบำบัดและผ่อนคลาย เมืองแทกูยังขึ้นชื่อในเรื่องพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนและสังสรรค์ของประชาชน หนึ่งในนั้นคือภูเขาพัลกงซาน เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวแทกูในการเมืองแบบ 360 องศา และมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งที่น่าสนใจของเมืองแทกู ได้แก่ สวนสนุก E-World ที่ผู้คนสามารถมารวมตัวกันและเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน

แลนด์มาร์คที่ #1: สวนสนุกอีเวิลด์และตึก 83 ทาวเวอร์ (E-World & 83 Tower, 이월드 & 83타워)  

이월드1.jpg
이월드.jpg
83타워1.jpg
83타워.jpg

สวนสนุกอีเวิลด์และตึก 83 ทาวเวอร์ (E-World & 83 Tower) สวนสนุกอีเวิลด์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องไปให้ได้ของเหล่านักท่องเที่ยว เมื่อพวกเขาจะไปเที่ยวเมืองแทกู โดยสวนสนุกอีเวิลด์เป็นสวนสนุกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลี ซึ่งรวบรวมเครื่องเล่นและกิจกรรมต่างๆ มากมาย เหมาะสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่รักความท้าทาย ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชิลๆ บริเวณสวนสาธารณะและเล่นเครื่องเล่น อย่าลืมไปเยี่ยมชมตึก 83 ทาวเวอร์หรือที่เคยรู้จักในชื่อ Woobang Tower หอคอยสูง 83 ชั้นแห่งนี้มีดาดฟ้าชมวิว ร้านอาหาร และคาเฟ่ ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแทกูได้แบบ 360 องศา พร้อมกับชมบรรยากาศของต้นไม้ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่สถานที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น "จุดชมดอกพ็อตกตที่สวยที่สุด" ในเมืองแทกู

แลนด์มาร์คที่ #2: เคเบิลคาร์บนยอดเขาพัลกงซาน (Palgongsan Cable Car, 팔공산케이블카)

Palgongsan1.jpg
Palgongsan3.jpg
Palgongsan.jpg
Palgongsan2.jpg

เคเบิลคาร์ทบนยอดเขาพัลกงซาน (Palgongsan Cable Car) เปิดให้บริการในปี 1985 โดยมีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร และมีความสูง 800 เมตร เคเบิลคาร์พัลกงซานเป็นระบบหมุนเวียนอัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้หกคนต่อคัน ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของยอดเขาพัลกงซานและเมืองแทกูได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่า หอดูดาว เนินเขาแห่งความปรารถนา และอุโมงค์แห่งความรักให้ได้ไปเช็คอินอีกด้วย!

ชอลลานัมโด (เมืองมูอัน)

        จังหวัดชอลลานัมโด เป็นที่รู้จักในด้านทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์เนื่องจากล้อมรอบด้วยแม่น้ำและมหาสมุทร มีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติริมชายฝั่งที่สวยงามและป่าไม้เขียวขจี ซึ่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับกิจกรรมริมชายฝั่งคือการไปเที่ยวเกาะสีม่วง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของเกาะทั้งเกาะให้เป็นสีม่วงหมดเลย นอกจากนี้มีอีกแห่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็คือสวนป่าไผ่ชุกนกวอน เนื่องจากชอลลานัมโดค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติ ป่าไผ่จึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ สำหรันักท่องเที่ยวที่มาเพื่อพักผ่อนและดื่มด่ำกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์

แลนด์มาร์คที่ #1: เกาะสีม่วง (Purple Island, 퍼플섬)

0-11.jpg
0-02.jpg
0-04.jpg
0-10.jpg

เกาะสีม่วง (Purple Island) โลเคชั่นยอดฮิตของเกาหลีที่เกาะทั้งเกาะจะเป็นสีม่วงหมดเลยทั้งบ้าน ตึกอาคาร ถนน สะพาน รถเมล์ ร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ พร้อมนำเสนอธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใครของผู้คนบนเกาะ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับสายสโลว์ไลฟ์ที่ได้ทั้งความผ่อนคลายและได้สุขภาพที่ดี เมื่อปี 2015 ทางภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันเพื่อทำให้เกาะพันวอลโดและเกาะพัคจีโดเป็นดินแดนที่คงไว้ซึ่งสีม่วง: เกาะพันวอลโดและเกาะพัคจีโดได้ถูกรวมเข้าด้วยกัน และสร้าง "เกาะสีม่วง (Purple Island)" ขึ้นมา โดยมีการสร้างสะพานสีม่วง ปลูกดอกแอสเตอร์ ดอกแมกโนเลียลิลลี่ รวมไปถึงสวนลาเวนเดอร์ช่วยเติมความสดใส ด้วยความพยายามทั้งหมดเหล่านี้ทำให้เกาะสีม่วงเป็นที่นิยมมากๆ และดอกไม้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี

แลนด์มาร์คที่ #2: สวนป่าไผ่จุกนกวอน (Juknokwon Bamboo Forest, 죽녹원)

죽녹원4.jpg
죽녹원.jpg
죽녹원3.jpg
죽녹원1.jpg

สวนป่าไผ่จุกนกวอน (Juknokwon Bamboo Forest) เป็นสวนป่าไผ่ที่มีพื้นที่กว่า 310,000 ตร.ม. และเปิดให้บริการในปี 2005 เป็นหนึ่งในป่าไผ่ที่อยู่เหนือสุดบนคาบสมุทร มี 8 เส้นทางที่สามารถเดินเที่ยวชมธรรมชาติและสูดโอโซนบริสุทธิ์ได้ชุ่มปอด และจะมีเปลญวนไม้ไผ่ที่ผ่อนคลาย สนามเด็กเล่น รวมไปถึงเก้าอี้เอนหลังเพื่อมองเพดานไม้ไผ่อันกว้างใหญ่ของป่าได้อย่างชัดเจน และนอกจากนี้ยังมีงานศิลปะจัดวางสุดสร้างสรรค์ ไปจนถึงกลุ่มอาคารดั้งเดิมด้านหลังอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วเส้นทางจะเดินได้ง่ายและไม่ลาดเอียงมากนัก แต่ถ้าเป็นด้านหลังของสวน ในจุดนี้จะเป็นเส้นทางที่ทอดลงไปยังอาคารแบบดั้งเดิม จำไว้ว่าถ้าได้ลงไปแล้วจะต้องกลับขึ้นมาใหม่ และนี่จะเป็นส่วนที่ลาดชันเพียงจุดเดียวและทำให้ใจเราเต้นรัวอย่างแน่นอนแม้ว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีในการกลับขึ้นมาก็ตาม

Anchor 1
Anchor 2
Anchor 3
14. ขาว (flight) 1410x2305.jpg

คลิกเลย! เพื่อติดตามแพ็คเกจทัวร์ที่น่าสนใจ:

     https://www.kto.or.th/koreatour

bottom of page